คู่มือผู้ใช้สำหรับแอป OANDA ใน OANDA Global Markets

• คุณต้องดาวน์โหลดแอป OANDA ลงบนอุปกรณ์ Android หรือ iOS ของคุณ แอป OANDA สามารถใช้งานได้กับระบบปฏิบัติการ Android 5.0 หรือสูงกว่าและ iOS 10.3 หรือสูงกว่า
• คุณต้องมีบัญชีเทรดจริงบน MT5 อย่างน้อยหนึ่งบัญชี

1. คลิกที่ Continue (ดำเนินการต่อ) โดยเข้าสู่ระบบด้วยกุญแจความปลอดภัยของคุณ

   

   • หากคุณใช้ตัวเลือกอีเมลและรหัสผ่านในการเข้าสู่ระบบ คุณอาจเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาด ซึ่งทำให้ไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้และนำคุณไปยังตัวเลือกการเข้าสู่ระบบด้วยกุญแจความปลอดภัย
   • หากคุณไม่เห็นตัวเลือกการเข้าสู่ระบบด้วยกุญแจความปลอดภัย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้ OANDA เวอร์ชัน 5.6.1672 หรือสูงกว่าบนระบบปฏิบัติการ Android และใช้ OANDA เวอร์ชัน iOS 5.7.1948 หรือสูงกว่าบนระบบปฏิบัติการ iOS

2. ป้อนข้อมูลประจำตัวของคุณสำหรับใช้งานพอร์ทัล OANDA และคลิก Continue (ดำเนินการต่อ)

   
   

1. แตะที่ไอคอนจุดสามจุดตรงมุมซ้ายด้านบน

   

2. แตะที่ TRADE (ซื้อขาย) หรือเลือกบัญชีเทรดจริงบน MT5 ที่คุณต้องการซื้อขาย

   

1. แตะที่ไอคอนจุดสามจุดตรงมุมซ้ายด้านบน

   

2. เลือกบัญชีย่อยที่คุณต้องการฝากเงินและคลิก ADD FUNDS (เพิ่มเงินทุน)

   

3. จากนั้นลงชื่อเข้าใช้พอร์ทัลของ OANDA และฝากเงินเข้าบัญชีของคุณ

1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เลือก Instruments (ตราสาร) ในแถบด้านล่าง คุณสามารถเห็นตราสารทั้งหมดที่คุณเข้าเทรด แตะที่แถบหมวดหมู่ต่าง ๆ หรือที่แท็บ Favorites (รายการโปรด) เพื่อค้นหาตราสารที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ คุณยังสามารถค้นหาตราสารเฉพาะเจาะจงได้โดยใช้ชื่อเต็ม ชื่อบางส่วน ชื่อแบบสั้น (ชื่อย่อ) หรือชื่อเล่น (เช่น ค้นหาคำว่า 'cable" สำหรับคู่สกุล eur/usd)

   

   

2. แตะที่ BUY (ซื้อ) หรือ SELL (ขาย) สำหรับตราสารใด ๆ

   

3. ไม่บังคับ: คลิกที่ไอคอน i ถัดจากชื่อตราสารสำหรับข้อมูลตราสารและเวลาเปิดตลาด หลังจากได้รับข้อมูลที่จำเป็นแล้ว คลิก Close (ปิด)

   

4. เลือกคำสั่ง Market (ซื้อขายตามราคาตลาด) Limit (ซื้อขายตามราคาที่กำหนด) หรือ Stop (ซื้อขายตามราคาที่กำหนดให้ดีกว่าตลาด)

5. วิเคราะห์ราคาบนแผนภูมิซึ่งเป็นเพียงการบ่งชี้เท่านั้น (ไม่สามารถซื้อขายได้) คุณสามารถขยายแผนภูมิให้ดูแบบเต็มหน้าจอได้ดังที่แสดงในภาพต่อไปนี้:

   

   คุณสามารถเปลี่ยนระยะเวลาของกราฟได้โดยคลิกที่ไอคอนด้านล่างที่แสดงรายการใดรายการหนึ่งต่อไปนี้

   • 1M (1 นาที)
   • 5M (5 นาที)
   • 1H (1 ชั่วโมง)
   • 4H (4 ชั่วโมง)
   • 1D (1 วัน)

   สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบันทึกรูปแบบกราฟ ให้ดูในหัวข้อ FAQ (คำถามที่มักพบบ่อย) แบบละเอียดของเรา

   • แผนภูมิทั้งหมดใช้โซนเวลาเซิร์ฟเวอร์ (เวลามาตรฐาน GMT+2 หรือเวลาออมแสง GMT+3) และไม่ใช่เวลาท้องถิ่นของอุปกรณ์ เวลาท้องถิ่นของอุปกรณ์ (ในการตั้งค่าแอป) มีผลต่อการดำเนินการซื้อขายและเวลาหมดอายุซึ่งแสดงในส่วน Portfolio (พอร์ตลงทุน)

   • แผนภูมิแสดงราคาตราสารอ้างอิงLast Traded (ที่ซื้อขายล่าสุด)สำหรับ CFD ของหุ้น และราคากลางสำหรับตราสารอื่น ๆ ทั้งหมด

6. ป้อนปริมาณการซื้อขายที่มีหน่วยเป็นล็อต (Lots)

   นอกจากนี้ ในกรณีที่เป็นคำสั่ง Limit (ซื้อขายตามราคาที่กำหนด) หรือคำสั่ง Stop (ซื้อขายตามราคาที่กำหนดให้ดีกว่าตลาด) ให้ป้อนราคาที่คำสั่งควรจะเริ่มต้นและเวลาหมดอายุที่คำสั่งควรจะหมดอายุ

   วันหมดอายุ (Expiry) ถูกตั้งค่าเป็น ไม่มีวันหมดอายุ (No expiry) โดยค่าเริ่มต้น คุณสามารถเปลี่ยนได้โดยการแตะที่นั้น คุณสามารถเลือกได้จาก ชั่วโมง วัน หรือ เดือน ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณตั้งค่าเป็น 1 วัน (1 Day) คำสั่งจะหมดอายุภายใน 24 ชั่วโมงนับจากเวลาที่สั่งซื้อ ไม่ใช่หมดอายุเมื่อสิ้นสุดวันหรือช่วงเวลาการซื้อขายในปัจจุบัน หมายความว่าคำสั่งที่วางเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2023 เวลา 11:30 น. จะหมดอายุในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2023 เวลา 11:30 น. ตรรกะเดียวกันนี้ใช้กับช่วงเวลารูปแบบอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
   • สำหรับคำสั่งซื้อ Limit Order (ขายตามราคาที่กำหนด) คุณต้องป้อนราคาที่ดีกว่าราคาตลาดทั่วไป กล่าวคือราคาที่ต้องการจะต้องต่ำกว่าราคาเสนอขายทั่วไปสำหรับการซื้อหรือสูงกว่าราคาเสนอซื้อทั่วไปสำหรับการขาย

     

   • สำหรับคำสั่งซื้อขายตามราคาที่กำหนดให้ดีกว่าตลาด คุณต้องป้อนราคาที่ดีน้อยกว่าราคาตลาดทั่วไป กล่าวคือราคาจะต้องสูงกว่าราคาเสนอขายทั่วไปสำหรับการซื้อหรือต่ำกว่าราคาเสนอซื้อทั่วไปสำหรับการขาย

     

7. ไม่บังคับ: เปิดใช้งานฟีเจอร์ Risk Management (การจัดการความเสี่ยง) เพื่อป้อนค่าของจุดทำกำไร (Take Profit) หรือ จุดตัดขาดทุน (Stop Loss)

   

8. ไม่บังคับ: เลือก Take Profit (จุดทำกำไร) หรือ Stop Loss (จุดตัดขาดทุน) และป้อนค่าต่อไปนี้

   • PIP - ระยะห่างเป็น pip จากราคาปัจจุบัน
   • Price (ราคา) - ราคาที่สถานะควรจะปิด
   • %BAL - เปอร์เซ็นต์ของยอดคงเหลือในบัญชีของคุณที่คุณต้องการได้รับหรือยอมขาดทุน
   • HomeCurrency (สกุลเงินประเทศที่เปิดบัญชี) - จำนวนเงิน (แสดงในสกุลเงินท้องถิ่นของบัญชีของคุณ) ที่คุณต้องการได้รับหรือยอมขาดทุน
   • Risk Management (การจัดการความเสี่ยง)สำหรับคำสั่งซื้อ Limit หรือ Stop Order นั้นจะทำงานในลักษณะเดียวกัน ยกเว้นว่ามูลค่าดังกล่าวคำนวณมาจากราคาเงื่อนไขและไม่ใช่ราคาตลาด
   • คุณไม่สามารถกำหนดจุดตัดขาดทุนแบบเลื่อนตามราคา (Trailing Stop Loss) ได้
   • หากคุณปิดใช้งานฟีเจอร์ "Risk Management (การจัดการความเสี่ยง)", ค่า Stop Loss (จุดตัดขาดทุน) หรือ Take Profit (จุดทำกำไร) จะใช้กับคำสั่งซื้อขายของคุณไม่ได้

9. ส่งคำสั่งของคุณ แล้วกด CONFIRM (ยืนยัน)

   

10. ข้อความป๊อปอัพในแอปจะแจ้งยืนยันสถานะคำสั่งของคุณ

    

    ขึ้นอยู่กับประเภทอุปกรณ์ของคุณ ประสบการณ์การใช้งาน UI อาจแตกต่างกันไป

คุณสามารถบันทึกรูปแบบกราฟได้สูงสุดสามรูปแบบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ ต่อไปนี้:

1. ในมุมมองแบบเต็มหน้าจอของกราฟ ให้คลิกตัวเลือก Save (บันทึก)

   

2. ตั้งชื่อให้กับรูปแบบกราฟแล้วคลิก Save (บันทึก)

3. ในมุมมองแบบเต็มหน้าจอของกราฟ ตัวเลือก Save (บันทึก) จะถูกแทนที่ด้วยชื่อรูปแบบกราฟของคุณและไอคอนรูปก้อนเมฆ

   
   

4. ทุกครั้งที่คุณต้องการบันทึกการเปลี่ยนแปลง คุณต้องคลิกที่ไอคอนก้อนเมฆนี้

5. คุณสามารถคลิกรายการแบบเลื่อนลงที่อยู่ใกล้กับชื่อของรูปแบบกราฟเพื่อตั้งชื่อใหม่ คัดลอกรูปแบบกราฟ และโหลดรูปแบบกราฟ (ที่คุณได้บันทึกไว้ก่อนหน้านี้) หากต้องการสร้างรูปแบบใหม่ คุณต้องใช้ตัวเลือก Make a Copy (ทำสำเนา) จากรูปแบบเดิมที่มีอยู่

   

6. หากคุณคลิก Load Chart Layouts (โหลดรูปแบบกราฟ) คุณจะมีตัวเลือกให้คลิกตรงเครื่องหมาย 'x' ใกล้กับชื่อของรูปแบบเมื่อต้องการลบรูปแบบกราฟทิ้ง

   

1. ให้คลิกที่ Portfolio จากแถบด้านล่าง ไปยังแท็บ Open Positions (สถานะการซื้อขายที่เปิดอยู่)

   

2. คลิก Modify (ปรับเปลี่ยนแก้ไข)

   สำหรับคำสั่ง Market (ซื้อขายราคาตลาด) คุณสามารถแก้ไขเฉพาะช่องต่าง ๆ ต่อไปนี้:

   • จุดทำกำไร (Take profit)
   • จุดตัดการขาดทุน (Stop Loss)

   สำหรับคำสั่ง Limit (ซื้อขายตามราคาที่กำหนด) หรือคำสั่ง Stop (ซื้อขายตามราคาที่กำหนดให้ดีกว่าตลาด) คุณสามารถแก้ไขเฉพาะช่องต่าง ๆ ต่อไปนี้:

   • Volume (ปริมาณ)
   • Price (ราคา)
   • Expiry (วันหมดอายุ)
   • จุดทำกำไร (Take profit)
   • จุดตัดการขาดทุน (Stop Loss)

   

3. หลังจากคุณเลือก MODIFY (ปรับเปลี่ยนแก้ไข) แล้ว ให้คลิก CONFIRM (ยืนยัน)

   

4. คลิกที่ Done (เสร็จสิ้น) ในหน้าจอการยืนยัน

1. คลิกที่ Portfolio (พอร์ตลงทุน) จากแถบด้านล่าง ไปยังแท็บ Open Positions (สถานะการซื้อขายที่เปิดอยู่)

   

2. หากคุณต้องการปิดสถานะทั้งหมด ให้คลิก Close (ปิด) หากคุณต้องการปิดสถานะเพียงบางส่วน ให้คลิก Reduce (ลดลง)

   หากคุณคลิก Reduce (ลดลง) คุณต้องระบุจำนวนล็อต (Lots) หรือ ค่าร้อยละของสถานะการซื้อขายที่คุณต้องการลดจำนวนลงด้วย เมื่อทำการป้อนค่าหนึ่ง ระบบจะทำการคำนวณอีกค่าหนึ่งโดยอัตโนมัติ จากนั้น คลิก REDUCE TRADE (ลดระดับเทรด) แล้วยืนยันความตั้งใจของคุณ

   

   

1. คลิกที่ Portfolio (พอร์ตลงทุน) จากแถบด้านล่าง ไปที่แท็บ Pending Order (คำสั่งซื้อขายล่วงหน้า)

   

2. คลิก Modify (ปรับเปลี่ยนแก้ไข)

   

3. หลังจากคุณเลือก MODIFY (ปรับเปลี่ยนแก้ไข) แล้ว ให้คลิก CONFIRM (ยืนยัน)

   

4. คลิกที่ Done (เสร็จสิ้น) ในหน้าจอการยืนยัน

1. คลิกที่ Portfolio (พอร์ตลงทุน) จากแถบด้านล่าง ไปที่แท็บ Pending Order (คำสั่งซื้อขายล่วงหน้า)

   

2. คลิก Cancel Order (ยกเลิกคำสั่ง)

คลิกที่มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ สกุลเงิน สื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ มักออกและควบคุมโดยหน่วยงานส่วนกลาง และหมายเลขบัญชี MT5 ที่แสดงในแถบเครื่องมือด้านบน แถบเครื่องมือจะขยายออกเพื่อแสดงรายการต่อไปนี้

• มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ = ผลกำไร/ขาดทุนที่ยังไม่ปิดสถานะ + ยอดคงเหลือ
• กำไร/ขาดทุนที่ยังไม่ปิดสถานะ = ผลกำไรหรือขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นหากสถานะที่เปิดในตลาดถูกปิดในขณะนั้น
• ยอดคงเหลือ = จำนวนเงินทุนในบัญชี ซึ่งไม่รวมผลกำไรหรือการขาดทุนที่ยังไม่ปิดสถานะ
• เครดิต = โบนัสเงินสดที่สามารถใช้สำหรับการซื้อขายแต่ไม่สามารถถอนออก
• มาร์จินที่ใช้ = มาร์จินที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเพื่อรักษาสถานะการซื้อขายที่เปิดในตลาด
• มาร์จินที่มีอยู่ = จำนวนเงินที่มีเพื่อนำไปใช้เป็นมาร์จินในการเปิดการซื้อขายใหม่
• ระดับมาร์จิน = (มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ/มาร์จินที่ใช้) x 100

คลิกที่ Settings (การตั้งค่า) ในแถบด้านล่างที่หน้าจอหลังจากเข้าสู่ระบบ คุณจะเห็น Device Local Time (เวลาท้องถิ่นของอุปกรณ์)

คลิกที่ Setting (การตั้งค่า) ในแถบด้านล่างที่หน้าจอหลังจากเข้าสู่ระบบ คุณจะเห็น Statement & Reports (ใบแจ้งยอดและรายงาน) ที่เชื่อมโยงกลับมายังพอร์ทัลของ OANDA ของคุณ จากนั้น ลงชื่อเข้าใช้พอร์ทัลของ OANDA เพื่อดูใบแจ้งยอดและรายงานของคุณ

ตั้งค่าการแสดงผลในการตั้งค่าโทรศัพท์ของคุณ แอป OANDA จะแสดงธีมมืดหรือสว่างที่เป็นไปตามการเลือกของคุณในการตั้งค่าโทรศัพท์ระหว่างโหมดมืดหรือสว่าง

บัญชีซื้อขายของคุณอาจถูกล็อกอยู่เนื่องจากสาเหตุหลายประการ คุณอาจพบข้อความแสดงข้อผิดพลาดว่า การซื้อขายในบัญชีนี้ถูกปิดใช้งาน คุณยังสามารถปิดสถานะซื้อขายที่มีอยู่ได้ หากมีข้อสงสัยใด ๆ โปรดติดต่อแผนกต้อนรับของเรา

ในการลดความเสี่ยงสำหรับการใช้บัญชีซื้อขายของคุณในทางที่ผิด กรุณาติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าและบล็อกบัญชีของคุณโดยเร็วที่สุด